วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

แนวคิดเรื่องวิธีออกแบบบ้าน

แนวคิดเรื่องวิธีออกแบบบ้าน
บ้านสำหรับชนชั้นกลางทั่วไป ที่สร้างบนที่ดินขนาด 50-150 ตร.วา มักจะเป็นบ้านจัดสรรที่ไม่มีคุณภาพ ขาดองค์ประกอบของบ้านที่สำคัญ เช่น ครัว ห้องเก็บของ โรงรถ ที่สำคัญคือร้อนและอยู่ไม่สบาย บ้านควรจะสร้างเพื่อความสุขตามอัตภาพของผู้อยู่อาศัย และความเป็นมนุษย์คือการได้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข ได้สัมผัสธรรมชาติ และได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี

คุณภาพชีวิต
1. การจัดพื้นที่เป็นสัดส่วน
การจัดพื้นที่ภายในบ้านให้เป็นสัดส่วนสามารถลดปัญหาขัดแย้งภายในบ้านได้เช่น การดูโทรทัศน์ การฟังเพลง การทำการบ้าน การนอน การทำครัว การทานอาหาร การสังสรร หรือประหยัดพลังงานเมื่อใช้เครื่องปรับอากาศ หรือป้องกันเสียงและกลิ่นรบกวน หรือป้องกันยุง พื้นที่ ที่ควรแยกเป็นสัดส่วนได้แก่• ห้องนอน • ห้องครัว • ห้องพักผ่อน • ห้องนั่งเล่น • ห้องน้ำ • และหากแยกห้องทางอาหารได้ ก็ยิ่งดี











ห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร

2. แสงธรรมชาติ
การจัดให้ทุกพื้นที่ได้รับแสงธรรมชาติช่วยสร้างให้เกิดบรรยากาศที่น่าสบาย และลดการปิด-เปิดไฟ ที่น่ารำคาญ และไม่ประหยัด แสงธรรมชาติควรจะมาจากส่วนบนของห้องจะทำให้การกระจายแสงดี และแสงไม่จ้า ดังนั้น สีของเพดานจึงควรจะเป็นสีออกสว่างส่วนสีผนัง หากใช้สีสว่างเกินไปจะจ้า จึงควรคล้ำลงบ้าง














ตัวอย่างของการออกแบบเพดานเพื่อช่วยการกระจายแสง ตัวอย่างของการเปิดช่องแสงด้านบน

3. การระบายอากาศ
ห้องที่ควรจะใช้หลักการระบายอากาศตามธรรมชาติ ได้แก่

1. ห้องน้ำ 2. ห้องครัว 3. ห้องทานอาหาร 4. ห้องพักผ่อน

สำหรับห้องทานอาหาร หากใช้เครื่องปรับอากาศจะทำให้อาหารเย็นชืด และห้องจะมีกลิ่นเหม็น ส่วนห้องพักผ่อนหากใช้เครื่องปรับอากาศมักจะทำให้ห้องอับชื้น และมักจะเป็นห้องที่มีการเปิดประตูบ่อย บางคนอาจจะแพ้อากาศ ห้องที่เน้นการระบายอากาศ ควรจะสูง และใช้วัสดุที่ไม่สะสมความชื้น













การจัดให้ห้องน้ำติดทางเดินโล่งเพื่อการระบายอากาศ การเปิดช่องระบายอากาศในระดับต่ำเพื่อเป็นทางลมเข้า



หลักการระบายอากาศ ควรจะดำเนินการดังนี้
1. จัดสวนรอบบ้าน โดยใช้ต้นไม้ที่มีการเติบโตดี เพราะความเย็นจากต้นไม้ นอกจากจะเกิดจากร่มเงา และการระเหยของน้ำแล้ว ยังเกิดจากการดูดซับพลังงานแสงแดดเพื่อการสังเคราะห์แสงด้วย
2. ให้บริเวณโดยรอบบ้านมีการถ่ายเทอากาศปานกลาง เพื่อไม่ให้อับชื้น
3. หากมีบ่อน้ำ ต้องป้องกันไม่ให้น้ำที่ระเหยจากบ่อ เข้าบ้าน
4. ใช้การระบายอากาศ ด้วยแรงยกตัวของอากาศร้อน และใช้การระบายอากาศตามขวาง ห้องที่สูงจะช่วยในการระบายอากาศ และแยกชั้นอากาศร้อนไว้ด้านบน
5. ให้ห้องน้ำ และห้องครัวติดนอกบ้าน ประตูห้องน้ำใช้ประตูทึบ เพื่อป้องกันความชื้นเข้าบ้าน
6. ใช้พัดลมช่วย ก็สบายโขแล้ว


4. การปรับอากาศ
เยาวชนรุ่นใหม่ เกิดในโรงพยาบาลที่ใช้การปรับอากาศรถยนต์ อาคารสถานที่ต่างๆก็ใช้การปรับอากาศ จึงเป็นเหตุให้บ้าน โดยเฉพาะห้องนอน ซึ่งเป็นห้องที่คนใช้เวลาอยู่มากที่สุด ใช้เครื่องปรับอากาศกันเป็นส่วนใหญ่ ห้องนอน จึงต้องออกแบบให้มีสภาพของห้องเย็น คือมีฉนวนป้องกันความร้อนอย่างดี จึงจะใช้เครื่องปรับอากาศเล็กนิดเดียว แล้วจะได้ไม่เปลืองไฟ ตำแหน่งของเครื่องระบายความร้อน ต้องไม่รบกวน และไม่นำความร้อนกลับเข้ามาส่วนของเครื่องเป่าลมเย็น จะต้องไม่เป่าโดนตัวให้การกระจายลมดี และทำความสะอาดได้ง่าย

ในปัจจุบันมักจะนิยมใช้เครื่องปรับอากาศสำหรับห้องนอน จึงต้องออกแบบให้ห้องนอนมีฉนวนป้องกันความร้อนและความชื้นเป็นอย่างดี เพื่อให้ขนาดของเครื่องปรับอากาศเล็ก และภาระการทำความเย็นในตอนกลางวัน และตอนกลางคืนใกล้เคียงกัน

5. การป้องกันเสียง เสียงรบกวน มักจะมาจาก

• เสียงรบกวนจากข้างบ้าน และจากถนน

• กิจกรรมในบ้าน

• เครื่องระบายความร้อน

• ห้องน้ำ ดังนั้น จึงควรป้องกันเสียงดังนี้

• ใช้หน้าต่าง ที่ไม่เปิดรับเสียงรบกวนจากภายนอกโดยตรง

• จัดแบ่งพื้นที่การใช้งานให้เป็นสัดส่วน

• กั้นผนังห้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้องนอน ด้วยผนังยิปซั่มโดยใช้โครงเคร่าแยก 2 ชั้น และให้มีช่องว่างอากาศอยู่ตรงกลาง

• ตั้งเครื่องระบายความร้อน ไม่ให้เสียงรบกวนบ้านของตัวเอง และบ้านของคนอื่น

• กั้นผนังห้องน้ำยันพื้นเพดาน และใช้ประตูทึบ













ลักษณะการกั้นผนังภายในระหว่างห้องนอนเพื่อป้องกันเสียง

6.ห้องสำคัญ
อย่าลืมเตรียมห้องเหล่านี้

1. ห้องเก็บของ 2. ห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด 3. ห้องขยะหน้าบ้าน 4. โรงรถที่มีหลังคาคลุม



ทางเดินสำหรับส่วนบริการ

ห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด



การอนุรักษ์พลังงาน
1. ใช้แสงธรรมชาติ ออกแบบบ้าน โดยไม่ต้องเปิดไฟเลยในตอนกลางวัน














2. ใช้แสงไฟร่วมกัน ออกแบบให้ไฟดวงเดียว ใช้ประโยชน์ได้ในหลายพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นที่ส่วนกลาง

3. ใช้การระบายอากาศธรรมชาติ ทำให้ส่วนใหญ่ไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ

4. ใช้เครื่องปรับอากาศเท่าที่จำเป็น อาจจะเปิดเครื่องปรับอากาศเฉพาะห้องนอน โดยเน้นการสร้างห้องนอนให้มีสภาพคล้ายตู้เย็น เทคโนโลยีของฉนวนป้องกันความร้อนในปัจจุบันดีมาก และจะต้องมีทั้งฉนวนป้องกันความชื้นกับฉนวนป้องกันความร้อน หากหลังคามีระบบฉนวนที่ดีแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมีฝ้าเพดานอีก

5. ไม่ใช้หม้อน้ำร้อนไฟฟ้า เครื่องทำน้ำร้อนไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่กินไฟมาก เครื่องระบายความร้อนที่มีชุดทำน้ำอุ่นก็พอใช้ได้ หรือจะใช้เครื่องทำความร้อนด้วยแสงอาทิตย์ก็ได้ แต่ถ้าใช้น้ำบาดาลก็ควรจะมีเครื่องทำน้ำอ่อนด้วย

6. ใช้การตากผ้า และไม่ใช้ตู้อบผ้า จัดหาที่ตากผ้าไว้ และอย่าแก้ปัญหาด้วยตู้อบผ้าไฟฟ้า ประเทศไทยมีแดดเหลือเฟือ แดดรำไรก็ยังใช้ได้ ถ้าระบายอากาศได้ดี


งานระบบ
1. ถังน้ำ วางถังน้ำลอยบนพื้น ดีกว่าฝังดินเพราะมักจะรั่วแล้วไม่รู้ และปั๊มน้ำจะทำงานได้ดีกว่า เนื่องจากระดับที่สูงกว่าตัวปั๊ม

2. การระบายน้ำ ระดับบ้านควรจะสูงกว่าระดับถนนประมาณอย่างน้อย 1 เมตร จะทำให้การระบายน้ำสะดวก ทั้งสวน ห้องน้ำซักล้าง





3. ช่องท่อ เอาไว้ติดนอกบ้าน หรือไว้ในที่ ที่ซ่อมได้

4. ถังบำบัดน้ำเสีย ใช้ถังบำบัดสำเร็จรูปที่ได้มาตรฐาน และใช้ถังดักไขมันจากครัว
5. รางน้ำฝน ใช้รางน้ำฝนเฉพาะเมื่อต้องการป้องกันน้ำฝนจากชายคา และรางน้ำฝนจะต้องสามารถทำความสะอาดได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น